จากประสบการณ์ในการประเมินผลการฝึกอบรม
ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดธานีที่มีการดำเนินการเป็นประจำทุกครั้งหลังการฝึกอบรม
ทำให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆ เช่น หลักการเขียนรายงาน
ความล่าช้าในการประมวลผล และการสรุปรวบรวมประเด็นเนื้อหาการฝึกอบรม
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อขจัดปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้นการประเมินผลการฝึกอบรม
ควรจะพิจารณาถึงประเด็นต่าง ๆ ครอบคลุมกระบวนการฝึกอบรมทั้งระบบ
มิใช่จะสนใจเฉพาะเพียงผลที่ได้จากกระบวนการฝึกอบรม เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับวัตถุประสงค์ของโครงการฝึกอบรมเท่านั้น ดังนั้นวิธีการที่ใช้ในการประเมิน จึงน่าจะมีความหลากหลายตั้งแต่วิธีการธรรมดาสามัญไปจนถึงเทคนิคที่ใช้ในการวิจัยทางสังคมศาสตร์
ขั้นตอนและวิธีดำเนินการประเมินผลการฝึกอบรม
ขั้นที่ 1 กำหนดวัตถุประสงค์การประเมิน
ข้อมูลที่จะนำมากำหนดเป็นวัตถุประสงค์ของการประเมินมาจาก วัตถุประสงค์ของโครงการฝึกอบรม
รวมกับสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาต้องการทราบ แล้วสรุปเป็นวัตถุประสงค์ของการประเมิน
ขั้นที่ 2
ขั้นวางแผนการประเมิน ในขั้นนี้เป็นการนำวัตถุประสงค์ของการประเมินผล
มากำหนดเป็นแผนการประเมิน 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1) กำหนดประเภท 2) กำหนดคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการทราบ
3) กำหนดแหล่งที่มา ของข้อมูล 4) กำหนดช่วงเวลาจัดเก็บข้อมูล
5) กำหนดเทคนิคหรือวิธีการและเครื่องมือในการจัดเก็บข้อมูล
และ 6) กำหนดวิธีการ วิเคราะห์ข้อมูล โดยอาจกำหนดเป็นตาราง
ขั้นที่ 3
จัดเตรียมเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผล เครื่องมือสำคัญที่ใช้ในระดับการประเมินปฏิกิริยาของผู้เข้าอบรม
ได้แก่ แบบสอบถาม ซึ่งโดยปกติเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการประเมินผลจำเป็นต้องพัฒนาขึ้นมาเอง
เพื่อใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลความคิดเห็นของผู้เข้าอบรม แบบสอบถามโดยทั่วไป
ในการประเมินผลระดับนี้ อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ
1) แบบประเมินโครงการ เป็นแบบสอบถามซึ่งเหมาะสมกับการใช้เป็นข้อคำถามแบบปรนัย
กล่าวคือ แต่ละข้อคำถาม จะมีคำตอบหลายคำตอบให้เลือก โดยเมื่อได้รับข้อมูลหรือคำตอบแล้วสามารถนำมาแปลงเป็นตัวเลข
แจกแจงความถี่ แล้ววิเคราะห์เชิง ปริมาณได้ ไม่นิยมใช้คำถามปลายเปิด หรือควรจะใช้น้อยที่สุด
(อาจไม่เกิน 2-3 ข้อ) แต่ควรพยายามกระตุ้น
ให้ผู้ตอบได้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมข้อคำถามประเด็นต่างๆที่มีอยู่แล้ว
ส่วนเนื้อหาหรือประเด็น ที่สอบถาม ควรกำหนดให้ครอบคลุมทุกด้านของโครงการฝึกอบรม
ส่วนใหญ่มักจะประกอบด้วย เนื้อหาหลักสูตร
ความเหมาะสมของรายละเอียดโครงการและกำหนดการฝึกอบรม วิทยากร เอกสารประกอบการอบรม
และสถานที่ฝึกอบรม
2) แบบประเมินรายวิชา มักจะนิยมใช้เป็นคำถามแบบปรนัยล้วนๆ
เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการตอบ เนื่องจาก เป็นเครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อวิชาแต่ละวิชาทุกวิชา
ผู้เข้าอบรมจึงจะต้องตอบแบบสอบถาม นี้ในระยะเวลา สั้นๆแต่บ่อยครั้ง โดยข้อคำถามมักจะเน้นถึงประเด็นเกี่ยวกับ
ความรอบรู้ในเนื้อหาวิชา การสร้างบรรยากาศในการฝึกอบรม ความรู้/ความเข้าใจ/ทักษะ/ทัศนคติ
และระยะเวลาฝึกอบรมในแต่ละหัวข้อวิชา
นอกจากนี้เครื่องมือสำคัญที่ใช้ในระดับของการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เข้าอบรม
ซึ่งได้แก่ ข้อทดสอบก่อน-หลังการอบรมนั้น เป็นเครื่องมือที่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการประเมิน
มักจะต้องพัฒนาขึ้นมาเอง
แบบทดสอบโดยขอความร่วมมือจากวิทยากรในแต่ละวิชาช่วยออกข้อทดสอบให้
ในหัวข้อวิชาที่วิทยากรรายดังกล่าวรับผิดชอบ โดยทั่วไป
แบบทดสอบก่อน-หลังการอบรมนั้นมักจะมีลักษณะเป็นข้อทดสอบปรนัย แต่ละข้อจะมีคำตอบหลายข้อให้เลือกตอบ
หรืออาจมีลักษณะเป็นการให้เติมคำตอบที่ถูกต้องลงในช่องว่างก็ได้ ทั้งนี้
เพื่อความสะดวก ในการนำข้อมูลหรือคำตอบที่ได้มาแปลงเป็นตัวเลข
เช่นเดียวกับแบบสอบถามทั่วไป อย่างไรก็ตาม
ไม่ว่าใครจะเป็นผู้พัฒนาเครื่องมือในการประเมินผลการอบรม หรือเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผล
ระดับใดก็ตาม
เครื่องมือเหล่านั้นควรจะต้องมีคุณสมบัติที่ดีของเครื่องมือในการประเมินผล
ซึ่งได้แก่ ความเที่ยงตรง ความเชื่อมั่น ความเป็นกลางปราศจากอคติ
ความเหมาะสมที่จะนำไปใช้ และความง่าย
ขั้นที่ 4 ขั้นปฏิบัติตามแผน
เมื่อได้จัดเตรียมเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินแล้ว จึงเป็นการลงมือปฏิบัติตามแผน
คือ ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล เช่น การสอบถามด้วยแบบสอบถามหรือการสัมภาษณ์ ตามช่วงเวลาที่ได้กำหนดไว้
ขั้นที่ 5
ขั้นการวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปรายงานการประเมินผล เมื่อเก็บรวบรวมข้อมูลได้แล้ว
เป็นการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ โดยนำเอาหลักสถิติในการวิจัยทางสังคมศาสตร์มาใช้ก่อน
ที่จะนำผลการวิเคราะห์ไปเขียนสรุปเป็นรายงานผลการประเมินโครงการฝึกอบรมต่อไป
ส่วนวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล จะขึ้นอยู่กับ
เทคนิควิธีการประเมินผลและเครื่องมือที่ใช้ อาจจะประยุกต์ใช้เทคนิคทางระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์
วิธีที่ดีที่สุดการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปประเมินผลข้อมูล
และนำมารวบรวม/เรียบเรียงเป็นรายงานการประเมินผลการฝึกอบรมต่อไป
ส่วนรายงานการประเมินผลการฝึกอบรม
นั้น ควรประกอบด้วย
1. ชื่อโครงการฝึกอบรมที่ประเมิน
2. วัตถุประสงค์ของการประเมินผล
3. วิธีการประเมินผล
3.1 ขอบเขตในการประเมินผล
3.2 วิธีการเก็บข้อมูล
3.3
วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลหรือสถิติที่เกี่ยวข้อง
4. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
4.1
สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลในประเด็นต่าง ๆ โดยอาจอยู่ในรูปของตารางพร้อมการอธิบายความ
5. สรุปและข้อเสนอแนะ
5.1
สรุปผลการประเมินโดยส่วนรวมทั้งหมด
5.2 ข้อดีและข้อควรปรับปรุง
5.3 ข้อเสนอแนะจากผู้ประเมินและผู้รับผิดชอบโครงการฝึกอบรม
6. ภาคผนวก
6.1 รายละเอียดโครงการฝึกอบรม
6.2
รายชื่อผู้เข้าอบรม/ตำแหน่ง/หน่วยงานที่สังกัด
6.3 รายชื่อวิทยากร
6.4 แบบประเมินผล
6.4
คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการ
จากเทคนิคการทำงานดังกล่าวทำให้เกิดการทำงานที่มีเป้าหมายและทิศทางที่ชัดเจน
ลดขั้นตอนการทำงาน ทำให้การทำงานรวดเร็วมากขึ้น
เป็นส่วนช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเป็นแนวทางในการเขียนรายงานการประเมินผลการฝึกอบรมที่ถูกต้อง
ส่งผลให้การประเมินผลการฝึกอบรมมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ความรู้เรื่อง เทคนิคการประเมินผลการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพ
เจ้าของความรู้ นายณัฐวุฒิ เหมากระโทก
ตำแหน่ง นักทรัพยากรบุคคล
(พนักงานราชการ)